How to - ดูแลผิว โกลว์ใสฉบับภาพ 10 ปีที่ดูแลมา คุ้มไม่คุ้ม ✨



 

สวัสดีค่าาาา ภาพนะคะ กลับมาพบกันอีกครั้งค่ะ

หายหน้าหายตาไปจากบล็อกนี้นานพอสมควรเลย

ช่วงนี้พิมพ์ชอบรีวิวใน Twitter มากเป็นพิเศษค่ะ 5555

รีวิวใน Twitter เป็นรีวิวที่สั้นและอ่านได้ง่ายดีนะ

(https://twitter.com/pimphappim)


แต่แต่แต่ วันนี้เราจะมารีวิวการ ดูแลผิว ทั้งหมด

ที่พิมพ์ทำมาตลอด 10 ปีโดยละเอียดค่ะ


ทำไมถึงเป็นคนดูแลผิว

เมื่อก่อนพิมพ์เป็นเด็กที่ ไม่สนใจเรื่องความสวยความงามเลยค่ะ

เรียนอย่างเดียว สิ่งเดียวที่ทำให้ดีใจคือการเรียนแล้วได้เกรดดีค่ะ

ทั้งชีวิตมีแค่นั้นเลย จนกระทั่งเราได้เข้าสังคมที่ใหญ่ขึ้น

จากเด็กร่าเริงสดใส ก็กลายเป็นเด็กที่ไม่มั่นใจในตัวเองเลยค่ะ

เหตุเพราะในช่วงเปลี่ยนผ่าน จากวัยเด็กเข้าสู่วัยรุ่น 

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ละเอียดอ่อนมากเลย

เป็นช่วงที่พิมพ์โดนบูลลี่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกค่ะ

ซึ่งปกติพิมพ์จะไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่ 

เพราะกลัวเพื่อนบางคนมาอ่านแล้วเกิดความไม่สบายใจ

แต่พิมพ์ขอบอกก่อนว่า พิมพ์ไม่ได้คิดอะไรแล้ว 555

ไม่ได้โกรธหรืออะไรเลยค่ะ คิดว่า เอ้อ มันก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้

แค่อยากเกริ่นว่า ทำไมอยู่ดีๆ ถึงเป็นคนรักสวยรักงามขึ้นมาเฉยๆ ค่ะ 55

(มันก็ต้องมีสาเหตุอ่ะน้อออ ^^”)


ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น ประถมปลายๆ พิมพ์จะไม่ค่อยมีรูปเลยค่ะ

เพราะว่าไม่มั่นใจในตัวเองมากๆๆๆ แบบมากเลย

ก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปนะ จะมีก็แต่ตอน ม.3 ที่เริ่มดูแลตัวเองแล้วหน่อยนึงค่ะ



(อันนี้คือภาพเก่าที่สุดเท่าที่หาได้ น่าจะม.3 เท่าที่จำได้

กล้องสมัยนั้นคือยังเบลอๆ ไม่ชัดเท่าสมัยนี้

แต่จริงๆ พิมพ์ผิวแห้ง เป็นสิวเยอะมากเลยนะ 555555

ในภาพคือใส่คอนแทคแล้วค่ะ ตัวจริงคือเป็นสิว ใส่แว่น 5555)



เริ่มดูแลตัวเองยังไงบ้าง

1. ตอนนั้นทาแค่ครีมค่ะ ทำเป็นอย่างแรกเลย

เพราะอ่านมาเค้าบอกกันว่า ถ้าอยากขาวต้องทาครีม

ซึ่งครีมที่ฮิตในตอนนั้นคือครีมเภสัชค่ะ

จะมีแค่เวอร์ชันขวดสีฟ้าๆ ยังไม่มีสีเขียวกับสีชมพูเหมือนตอนนี้นะ

ผิวก็เริ่มสว่างแล้วหน่อยนึงค่ะ

หน่อยนึงของพิมพ์คือ ประมาณ 20% จากผิวเดิมนะ



2. ในเวลาถัดมา ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ 

คำว่ากลูตาไธโอน 

เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นค่ะ

ตอนนั้นถึงได้รู้จักกับคำว่าอาหารเสริม หรือวิตามินบำรุงร่างกาย

ช่วงนั้นพิมพ์เสิร์จหนักมากกกกค่ะ

เพราะเค้าบอกว่ากลูตามีผลข้างเคียงเยอะนะ

เค้าวิจัยกันเยอะนะว่าอันตราย บลาๆ

ไอเราก็อยากขาวอยากสวย 555 (ในตอนนั้น)

เลยพยายามหาวิจัยที่ชัดเจนที่สุด

ปรากฏว่าไปได้วิจัยของมหาลัยนึงมาค่ะ พิมพ์ลืมไปแล้วนะของม.อะไร

เค้าบอกว่า จริงๆ แล้วในผักผลไม้ของเราเนี่ย มีกลูตาไธโอนอยู่แล้วค่ะ

ในปริมาณที่เยอะด้วย 

ตอนนั้นก็เลยบ้ากินสลัดทุกวันเลยค่ะ 55555555

ทุกวันจริงๆ เวลาทั้งหมดที่กินคือ 1 ปีเต็มค่ะ

รูทีนคือกินน้ำมะเขือเทศ 1 แก้วช่วงเช้า

และกินพร้อมตามิน C ของญี่ปุ่น

ต่อด้วยสลัดในตอนเย็นค่ะ


3. ที่ขาดไม่ได้เลยคือการทากันแดดทุกวันก่อนไปโรงเรียน

ตอนนั้นกันแดดกล้วย Banana boat คือดังมากกกกก

พิมพ์ทาทุกวันจริงๆ แต่ก็แลกมากับความที่โคตรเหนียวเลย 

ทรมานมากค่ะ แต่ยอมแลกเพื่อผิว 5555

ในตอนนั้น พิมพ์บอกกับตัวเองว่า 

แดดเมืองไทยต้อง SPF50 เท่านั้น

PA+++ บวกต้อง 3 ตัว ก็มาลงตัวที่ตัวนี้ค่ะ

ทาทุกวันจริงๆ


ผลที่ได้ ช่วงม.5-6 คือขาวมากกกก ขาวแบบขาวโอโม่เลย

ขาวเหมือนกระดาษเลยค่ะ



ต่อมาเข้าปี 1 

ตอนนั้นพิมพ์เรียนจิตรกรรมก่อนนะ

แล้วค่อยซิ่วเข้ามัณฑนศิลป์ 😂

ช่วงนั้นก็ยังขาวอยู่ แต่จะเป็นช่วงที่เริ่มสังเกตุค่ะ

ว่าตัวเองค่อยๆ คล้ำลง

ผิวไม่ขาวและสดใสเหมือนแต่ก่อน

ขนาดใช้ Banana boat แล้ว ทาครีมก็แล้ว

ผิวไม่สว่างขึ้นเลยค่ะ 

สุดท้ายมาจบที่ อ้อ เราไม่ได้กินผักและผลไม้เลยค่ะ

วิตามิน C ก็ไม่ได้ทานเลย 

ถึงได้รู้ว่าปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้โอโม่ได้ขนาดนั้น

ก็เพราะอาหารที่เรากินเข้าไปนี่เอง

(อย่าตกใจนะ พิมพ์เลยเป็นทอมมาก่อนค่ะ 55555

สุดท้ายมารู้ตัวทีหลังว่าเป็น Pansexual ก๊าก 555555)


พอเข้าศิลปากรได้ ก็เป็นช่วงที่เริ่มแต่งหน้าเยอะขึ้น

ดูแลผิวแบบสม่ำเสมอ สม่ำเสมอของพิมพ์คือไม่หักโหมค่ะ

เพราะเมื่อไหร่ที่เราหักโหม พอผิวขาวปุ๊บ

เราก็จะเทมันเลยทันที 5555

เหมือนที่พิมพ์กินผักทุกวันเป็นเวลา 1 ปีเต็ม

พอขาวตามที่ต้องการแล้ว เราก็เลิกกินค่ะ

ไม่รู้ทำได้ยังไงนะช่วงนั้น 😂

ช่วงนี้มีการศัลยกรรมครั้งแรกเกิดขึ้น 5555

ไว้วันหลังถ้าว่างจะมาเล่าให้ฟังกันนะคะ


หลัวจากนี้ก็จะมีการ

4. สครับผิวอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จริงๆ แค่ 1 ก็พอค่ะ

แต่ถ้าใครขยันก็ 2 ครั้งก็ได้ค่ะ

ที่พิมพ์ใช้จะเป็นผงมะขามสำเร็จรูป หรือใครซื้อมะขามเปียกได้

ใช้แบบที่ไม่มีเปลือกจะได้ไม่บาดผิว

ขัดๆ พอกๆ 5 นาทีตอนอาบน้ำ ผิวก็จะใสม้ากกกก


(ภาพช่วงปี 1-4 ค่ะ)


(อันนี้เป็นภาพช่วงปี 4 จากกล้องของคนอื่นนะคะ แวววาวระยิบระยับ)


5. หลังจากที่พิมพ์ไม่ได้กินวิตามิน C ของญี่ปุ่นยี่ห้อเดิมแล้ว

พิมพ์ก็เปลี่ยนอาหารเสริมไปเรื่อยๆ ค่ะ จนสุดท้ายมาเจอตัวนี้

บอกก่อนว่า แบรนด์เป็นสปอนเซอร์ให้พิมพ์รีวิวนะคะ

แต่ที่พิมพ์ค่อนข้างประทับใจมากๆ เลยคือ

พิมพ์สามารถรีวิวจริงและอินกับมันได้ เพราะทานจริงค่ะ

ไม่มีบรีฟกำกับใดๆ เลย



พิมพ์ได้ทานวันที่ 20 .. จนตอนนี้ 5 ..

ก็เป็นเวลา 16 วันแล้ว มารีวิวความเปลี่ยนแปลงกันค่ะ


บอกก่อนว่าความประทับใจแรกคือ 

ข้างกล่องมีส่วนผสมที่เยอะมากๆๆๆ เลย

โดยรวมคือสารสกัดจากพืชและผลไม้ 33 ชนิด!! 

เป็นตัวเลขที่สวยมากๆ เลยค่ะ

ชื่อเต็ม

Sprouts “Collagen Booster”  Plant-based 100% 

(วีแกนนะคะทุกคน)

เป็นคอลลาเจนผงที่สกัดจากพืชและผลไม้ 100%

ที่สำคัญไม่มีน้ำตาล ซึ่งช่วงนี้พิมพ์ไดเอทอยู่ค่ะ เลยยิ่งชอบมากๆ เลย


มีเซราไมด์ (Ceramide) เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งในกลุ่มไขมัน

ทำหน้าที่สำคัญในการเป็นเยื่อหุ้มเซลล์ ปกป้องเซลล์ผิวภายนอกค่ะ


และ Natural Hyaluronic acid (กรดไฮยาลูโรนิค)

เป็นสารโมเลกุลน้ำตาล มีหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้น 

อุ้มน้ำคล้ายกับฟองน้ำค่ะ

ทำให้ผิวนุ่ม อิ่มน้ำ สุขภาพดี


และมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบ 3 ชนิด 

สำหรับสร้างคอลลาเจน ได้แก่ Lycine , Proline , Glysine ค่



สำหรับวิธีการทานของพิมพ์ก็คือ 

ทานพร้อมมื้ออาหารหรือตอนท้องว่างค่ะ

ชงทานได้เลย รสเค้าจะเป็นสตอเบอร์รี่ มีความเปรี้ยว

ไม่หวานเลี่ยนค่ะ ชอบมากกกก

พิมพ์ทานคู่กับน้ำอัดลมได้เลย

(แต่ไม่เหมาะกับชาเขียวนะคะ ลองแล้วไม่เวิร์ค 55555)



ที่พิมพ์แนะนำคือให้ทานคู่วิตซีค่ะ จะช่วยดึงวิตามินได้เร็วขึ้น

สูตรเดียวกับตอนม.ปลาย 😂



1 กล่องจะมี 10 ซอง

จากภาพจะเห็นว่าพิมพ์ทานไปแล้วหลายซองนะคะ 

บางซองก็เผลอทิ้งไปแล้ว


เรามาดูผิวช่วงนี้กันเลยดีกว่าค่ะ

อันนี้พิมพ์ไม่หักโหมนะ ไม่จำเป็นต้องขาวออร่าก็ได้

แต่อยากให้ผิวสุขภาพดีค่ะ ขาวไว้ทีหลัง

ตอนนี้ก็จะไม่ได้ขาวเท่าช่วงม.ปลายนะคะ

เพราะวัยทำงานก็มีเครียดๆ นอนเช้าบ้างไรบ้าง

แต่ก็ถือว่า ขนาดนอนเช้า ผิวยังดูสุขภาพดีอยู่เลยค่ะ :))



ภาพถ่ายวันที่ 16 .. ก่อนทานค่ะ



ภาพถ่ายวันที่ 28 ..



และภาพล่าสุดค่ะ ถ่ายวันที่ 5 ..นี้เองค่ะ


ความรู้สึกส่วนตัวคือ ผิวชุ่มชื้นขึ้น

โดยเฉพาะผิวหน้า ไม่แห้งตึงเลย 

ทั้งๆ ที่ช่วงนี้ลองสกินแคร์จำพวก AHA ค่ะ

ปกติผิวพิมพ์จะแห้งนะ ถ้าเป็นช่วงที่ลองใช้ครีมทาหน้าใหม่ๆ 

แต่ตอนนี้ไม่เลยค่ะ ผิวดูอิ่มน้ำมากๆ เลย

รู้สึกว่าลูบๆ ผิวแล้วให้สัมผัสที่ลื่นขึ้นค่ะ

ตากแดดแล้วไม่แสบผิว ผิวไม่คล้ำลงมากเท่าแต่ก่อน


สำหรับราคา อยู่ที่กล่องละ 850 บาท มี 10 ซอง นะ

(เฉลี่ยซองละ 85 บาทค่ะ)


ใครที่สนใจ สามารถสั่งซื้อได้ที่ช่องทางตามนี้เลย

หรือลองดูคูปองส่วนลดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee เลยค่ะ

Shopee : https://shopee.co.th/sproutsbrand.official

LINE: https://line.me/R/ti/p/%40689snfsg

Instagram : www.instagram.com/sproutsbrand.official


ใครมีคำถามอะไร แวะเข้ามาถามได้ในทวิตเตอร์นะคะ ^^

สำหรับวันนี้ไปก่อนค่า~

Hot